
															ในยุคที่โลกธุรกิจกำลังเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัล การออกใบกำกับภาษีและใบรับเงินแบบกระดาษกลายเป็นเรื่องของอดีต กรรมสรรพากรได้พัฒนาระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt (ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์และใบรับเงินอิเล็กทรอนิกส์) เพื่อยกระดับการจัดการเอกสารภาษีให้ทันสมัย มีประสิทธิภาพ และตอบโจทย์ธุรกิจในศตวรรษที่ 21
หลายผู้ประกอบการอาจมองว่าใบกำกับภาษีเป็นเพียงเอกสารธรรมดา แต่ในความเป็นจริงแล้วเอกสารเหล่านี้คือหลักฐานสำคัญทางบัญชีและภาษีที่ต้องจัดการอย่างถูกต้อง มิฉะนั้นอาจนำไปสู่ปัญหาทางกฎหมายและภาษีได้
ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) และ ใบรับเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Receipt) คือเอกสารภาษีที่ออก จัดส่ง และเก็บบันทึกในรูปแบบไฟล์ดิจิทัลแทนการใช้กระดาษ โดยมีผลกฎหมายเทียบ้เท่าเอกสารที่พิมพ์ลงกระดาษทุกประการ
กรมสรรพากรได้กำหนดมาตรฐานรูปแบบไฟล์การลงนามลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์อย่างเข้มงวด เพื่อรับรองความถูกต้อง ความปลอดภัย และความความสามารถในการตรวจสอบย้อนหลังของเอกสาร
การเปลี่ยนมาใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ช่วยให้ธุรกิจประหยัดค่าใช้จ่ายได้หลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นค่าพิมพ์เอกสาร ค่าจัดเก็บเอกสาร และค่าจัดส่งให้คู่ค้า นอกจากนี้ยังสามารถออกและส่งเอกสารได้ทันทีผ่านระบบออนไลน์ ช่วยเพิ่มความรวดเร็วในการทำงาน
ลูกค้าได้รับเอกสารทางอีเมลหรือระบบออนไลน์ทันที ไม่ต้องรอส่งทางไปรษณีย์ ทุกเอกสารมีการลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถตรวจสอบความถูกต้องได้ ลดความเสี่ยงจากการสูญหาย การชำรุดเสียหาย หรือการปลอมแปลงเอกสาร
ข้อมูลเอกสารถูกจัดเก็บเป็นไฟล์ดิจิทัลที่สามารถเชื่อมต่อกับระบบบัญชีได้โดยตรง ทำให้การบันทึกบัญชี การตรวจสอบรายการ และการยื่นภาษีเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น ลดโอกาสเกิดข้อผิดพลาดการบันทึกด้วยมือ
การใช้ระบบ e-Tax Invoice แสดงถึงความเป็นมืออาชีพและความพร้อมในการปรับตัวสู่สู่ยุคดิจิทัลของธุรกิจ ช่วยเสริมความน่าเชื่อถือและสร้างความประทับใจให้แก่ลูกค้าและคู่ค้า สอดคล้องกับแนวทางการจัดเก็บภาษีในยุคดิจิทัลของกรมสรรพากร
การลดการใช้กระดาษช่วยลดการตัดไม้ทำลายป่าและลดปริมาณขยะในองค์กร เป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน (Sustainable Business) ที่ได้รับความสนใจมากขึ้นในปัจจุบัน
															โครงการนี้เป็นสัญญาณชัดเจนว่ากรมสรรพากรกำลังผลักดันให้ระบบภาษีเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลเต็มรูปแบบ ธุรกิจที่ยังไม่มีระบบออก e-Tax Invoice จะเสียโอกาสในการดึงดูดลูกค้า เพราะผู้บริโภคจะเลือกใช้บริการกับร้านที่สามารถออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ได้
การเตรียมพร้อมตั้งแต่วันนี้จะช่วยให้
ผู้ที่ใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีจากโครงการ Easy e-Receipt 2.0 จะต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีในปีภาษี 2568 ซึ่งจะอยู่ในช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม 2569 นี่คือช่วงเวลาที่ผู้ประกอบการจะเห็นผลชัดเจนว่าระบบ e-Tax Invoice มีความสำคัญอย่างไร
สิ่งที่ธุรกิจควรเตรียมก่อนถึงปี 2569
การเริ่มต้นใช้งาน e-Tax Invoice ตั้งแต่ปี 2568 จะช่วยให้ธุรกิจมีเวลาปรับตัวและแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ก่อนที่จะถึงช่วงเวลายื่นภาษีจริงในปี 2569 ซึ่งจะเป็นช่วงที่มีผู้ใช้งานระบบเป็นจำนวนมาก
หากคุณกำลังมองหาระบบที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างมั่นใจ Nextto คือคำตอบที่เหมาะสม
Nextto เป็นระบบบริหารจัดการธุรกิจแบบครบวงจรที่รองรับการออก e-Tax Invoice และ e-Receipt ตามมาตรฐานกรมสรรพากรอย่างเต็มรูปแบบ ไม่ว่าคุณจะเป็นธุรกิจขนาดเล็กหรือองค์กรขนาดใหญ่ ก็สามารถใช้งานได้อย่างง่ายดาย
 ออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ได้ทันที ตามมาตรฐานกรมสรรพากร
 เชื่อมต่อระบบบัญชี ทำให้การทำบัญชีและยื่นภาษีง่ายขึ้น
 จัดการธุรกิจได้ครบจบในที่เดียว ตั้งแต่ขาย สต็อก ลูกค้า ไปจนถึงการเงิน
 ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน เหมาะกับทุกประเภทธุรกิจ
 พร้อมรองรับโครงการภาครัฐ อย่าง Easy e-Receipt
การปรับตัวสู่ระบบดิจิทัลไม่ใช่แค่การทำตามกฎหมาย แต่เป็นการลงทุนเพื่อความอยู่รอดและการเติบโตของธุรกิจในอนาคต เริ่มต้นง่าย ๆ วันนี้กับ Nextto และก้าวไปพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจไทย
															ทดลองใช้ NEXTTO ฟรี 30 วัน ติดต่อทีมงานเพื่อรับคำปรึกษาเพิ่มเติมได้ที่ Line OA – @Nextto
ช่องทางการติดต่อ NEXTTO
Facebook : Nextto System
Instagram : Nexttosystem
LINE : @Nextto
TikTok : @Nexttosystem
Email : helpdesk@nexttosystem.com
Tel : 095-5088226

e-Tax Invoice & e-Rec

ภาษีร้านค้าออนไลน์ เรื่อง



ใบกำกับภาษี คืออะไร และทำ

โปรแกรมบัญชีออนไลน์ NEXTT